Wednesday, June 29, 2016

ดูดไขมัน ด้วยเทคโนโลยี VASER

ดูดไขมัน ด้วยเทคโนโลยี VASER


Liposuction (ดูดไขมัน)


Liposuction หรือการดูดไขมัน เป็นการเอาไขมันออกจากร่างกายโดยใช้ท่อขนาดเล็กสอดใส่ในชั้นไขมันใต้ผิวหนังและทำการดูดไขมันออกมา หลังจากการดูดไขมัน รูปร่างจะกระชับได้สัดส่วน เข้ารูปมากขึ้น

Vaser ( Vibration Amplification of Sound Energy at Resonance )

คือเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ในการสามารถสลายไขมัน โดยใช้คลื่นultrasoundมาทำลายเป้าหมาย คือไขมัน ยุคแรกๆของการสลายไขมันจะมีปัญหาเพราะคลื่นultrasoundที่ใช้มีความร้อนมาก ซึ่งจะมีข้อเสียคือ ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ดูดไขมันตายได้ ต่อมาได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี ซึ่งVASER เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ultrasoundในการทำลายไขมันรุ่นที่3 ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่า เทคโนโลยีUltrasound ที่ใช้นั้นสามารถเลือกทำลายเป้าหมายคือไขมัน อย่างจำเพาะเจาะจง โดยไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง เช่น เส้นประสาท เส้นเลือด และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่นๆ วิธีการดูดไขมันนี้ จะนุ่มนวลกว่าการดูดไขมันแบบเก่า และผลข้างเคียงน้อยกว่าการดูดไขมันทั่วไปมาก คนไข้ฟื้นตัว ได้เร็วกว่าการดูดไขมันทั่วไป

นอกจากนี้ VASER ยังช่วยให้ผิวกระชับมากขึ้น การสลายไขมันได้ผลที่ดี ที่มีผลข้างเคียงน้อย ไม่มีปัญหาเรื่อง ผิวขรุขระ หรือเป็นโพรง ซึ่งแตกต่างจากการดูดไขมันแบบเก่า

หลักการทำงานของVASER

คลื่นultrasoundจะเข้าไปทำลายเฉพาะเจาะจงแต่ cellไขมัน (LipoSelection )โดยที่ไม่ทำลายเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่นๆ หรือcellอื่นๆเช่น cellเส้นประสาท cellเส้นเลือด หรือเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่นๆ หลังจากcell ไขมันถูกทำลาย cellไขมันจะแตกกลายเป็นของเหลว หลังจากนั้นแพทย์จะทำการดูดของเหลวออกจากร่างกายโดยใช้ท่อนาดเล็กๆดูดออก คลื่นultrasoundจะเข้าไปทำลายเฉพาะเจาะจงแต่ cellไขมัน

ภาพหลังจากใช้VASERทำการรักษา จะพบว่าชั้นไขมันลดลงและชั้นผิวหนังกระชับมากขึ้น

ข้อดีของ VASER

  • ช่วยปรับรูปร่างให้ได้สัดส่วน ผิวกระชับมากขึ้น
  • มีรอยช้ำน้อยกว่าการดูดไขมันแบบเก่า
  • ฟื้นตัวเร็วกว่าการดูดไขมันแบบเก่า
  • เสียเลือดระหว่างการดูดไขมันน้อย

บริเวณที่สามารถใช้ Vaser LipoSelection

ใต้คาง, แขน ,ปีกหลัง,หน้าท้องส่วนบนและส่วนล่าง,เอว, ต้นขา,น่อง,เข่า,หลัง,หน้าอก(มักจะใช้ในการปรับขนาดหน้าอกที่มีขนาดใหญ่ในเพศชาย)

ขั้นตอนการดูดไขมันด้วย VASER

  • จะทำการวาดรูป mark site ตำแหน่ง , จุดที่มีไขมันส่วนเกิน
  • จะทำการใส่สารน้ำชนิดพิเศษ (tumescent fluid)เข้าไปในตำแหน่งที่จะดูด สารน้ำจะช่วยในการลดการเสียเลือด ลดการบวมช้ำ
  • ต่อมาจะปล่อยพลังงานultrasoundไปทำลาย cell ไขมัน
  • Cellไขมันที่ถูกทำลายจะกลายเป็นน้ำเหลว หลังจากนั้นจะให้ท่อขนาดเล็กๆดูดออกมาอย่างนุ่มนวล โดยที่เนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ เกิดความเสียหายน้อยที่สุด

 ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน

  • ควรเข้ามาพบแพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง เพื่อตรวจร่างกาย ประเมินลักษณะไขมันที่สะสม ,ลักษณะผิวหนัง และตวรจเช็คสภาพร่างกายก่อน
  • ควรหยุดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน รวมทั้งสมุนไพรหรือวิตามินบางชนิด เช่น Vitamin E , Primrose oil, โสม, ใบแปะก๊วย,
  • งดสูบบุหรี่ก่อนดูดไขมัน อย่างน้อย2 สัปดาห์ และหลังดูดไขมันอย่างน้อย1เดือน
  • งดน้ำและอาหารก่อนทำการดูดไขมัน 6ชั่วโมง
  • เมื่อมาถึงclinicแล้ว จะทำการตรวจร่างกาย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนดูดไขมันอีกครั้ง พร้อมทั้งพาผู้ป่วยอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด

 ขั้นตอนการดูแลรักษาหลังดูดไขมัน

  • หลังจากดูดไขมันแล้ว บริเวณที่ทำการดูดอาจจะมีสารน้ำคล้ายเลือด(seroma)ไหลออกมาได้ สารน้ำอาจจะมีอยู่ได้ถึง3วันหลังทำการดูดไขมัน หลังจากนั้นจะค่อยๆลดลง
  • บริเวณที่ทำการดูดไขมันจะบวมได้ 1-2สัปดาห์ บางรายอาจบวมได้ถึง3สัปดาห์
  • รูปทรงและสัดส่วนที่ทำการดูดไขมันไป จะเข้าที่ประมาณ3-6สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นกับปริมาณไขมันที่ดูดและบริเวณที่ดูดออก
  • หลังจากดูดไขมัน ใน1สัปดาห์แรกควรจะพันผ้ารัดกระชับ(elastic bandage)บริเวณที่ดูดไขมันออก หลังจากนั้นแนะนำให้ใส่ชุดรัดกระชับ(Pressure Garment) เป็นระยะเวลา2-3เดือน เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี นอกจากนี้ ควรจะต้องมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและการควบคุมอาหารที่ดีด้วย
  • ควรงดการออกกำลังกายแบบหนัก 1-2สัปดาห์หลังดูดไขมัน

การทำ VASER ต้องดมยาสลบหรือไม่

ถ้าตำแหน่งที่ดูดไขมันขนาดเล็ก ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ เพียงแค่ฉีดยาเฉพาะบริเวณที่ทำการรักษาก็เพียงพอ แต่ในบางรายอาจเลือกใช้วิธีดมยาในกรณีที่พื้นที่ทำการรักษาค่อนข้างใหญ่ หรือมีไขมันปริมาณมากๆ

ระยะเวลาในการทำVASER

ระยะเวลาในการทำVASER ขึ้นอยู่กับบริเวณที่จะทำการดูดไขมัน และปริมาณไขมันส่วนเกิน โดยทั่วไปแล้ว ถ้าเป็นตำแหน่งเล็กๆเช่น คาง จะใช้ระยะเวลาประมาณ 30นาที แขน2ข้าง ใช้ระยะเวลาประมาณ1ชั่วโมง หรือในกรณีที่เป็นบริเวณใหญ่ เช่นหน้าท้อง ต้นขา อาจใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3ชั่วโมง

ระยะเวลาในการพักฟื้น

หลังจากการทำVASER จะให้ผู้ป่วยนอนพักฟื้นสังเกตอาการ ซัก 1-2ชั่วโมง ถ้าไม่มีอาการผิดปกติ จะให้กลับไปพักผ่อนต่อที่บ้าน ส่วนระยะเวลาในการพักฟื้นจะขึ้นกับตำแหน่งที่ดูดไขมันและปริมาณไขมันที่ดูดออกมา โดยทั่วๆไป ถ้าเป็นการดูดไขมันบริเวณเล็กๆเช่นคาง วันรุ่งขึ้นก็สามารถกลับไปทำงานต่อได้ แต่ถ้าเป็นบริเวณแขน อาจจะต้องพัก 1-2วัน ส่วนถ้าเป็นหน้าท้อง หรือต้นขาทั้งหมด อาจต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นตัวนาน กว่าตำแหน่งอื่น คือ7-10วัน ทั้งนี้โดยรวมระยะเวลาในการพักฟื้นจะขึ้นกับปริมาณไขมันที่ดูด บริเวณและจุดที่ดูดและ ลักษณะกิจวัตรประจำวันของผู้ป่วยด้วย

ดูดไขมัน

Sunday, June 19, 2016

Soul Skin เครื่องสำอาง ลองรวบรวมข้อมูลให้สำหรับสาวๆ อ่านกัน

Soul Skin เครื่องสำอาง ลองรวบรวมข้อมูลให้สำหรับสาวๆ อ่านกัน


สวัสดีค้าา เราจะมารีวิวCushion ตัวนี้สำหรับคนที่ อยากซื้อมาใช้นะคะ 


สำหรับที่เราได้ใช้มานะคะ มันฉ่ำวาวดีค่ะ แต่สิ่งที่ตามมารู้สึกว่ามันเหนอะหนะค่ะ
โดยส่วนตัวเป็นคนหน้ามันอยู่แล้ว รู้สึกว่าคุมมันเราไม่รอด 55555555555555 เราเคยทาแล้วไปเอาน้ำใส่หน้า ผลปรากฎว่า ไม่กันน้ำนะคะ 555555 มีคาบแปงไหลออกค่ะ พอเราซับออกมีคราบแป้งติดมาด้วยค่ะ แต่มันไม่ได้ออกหมดนะคะ เรารู้สึกว่าหน้ามันยังคงมีแป้งอยู่แต่ดูซอบๆลงค่ะ ดูสีเข้ากับหน้ามากขึ้น
แต่จิงๆแล้วไม่กันเหงื่อเท่าไรนะคะ ตอนเราทาเสร็จใหม่ๆแล้วมีเหงื่อออกคุชชั่นก็ไหลเหมือนกันนะคะ ไหลมากับเหงื่อเลย ร้องไห้ มาถึงเรื่องปกปิด มันก็ปกปิดได้ระดับนึงคะสำหรับรอยเล็กๆน้อยๆ แต่ใครที่มีรอยสิวมากๆไม่ปกปิดขนาดนั้นนะคะ ต้องแทบเนื้อคุชชั่นใหม่ แล้วทาทับซ้ำค่ะถึงจะเอาอยู่
ตอนเราแทบๆคุชชั่นคือต้องกดแรงมากค่ะ ตอนแรกนึกว่า มันหมด 5555  แล้วชอบติดตามขอบพับ แล้วฉันจะทายังไงงงงง พับตอนนี้แบบเละมากค้าาาา
ใช้มาเดือนกว่าค่ะ 5555 เราว่ามันเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลุกเบาๆใสๆ และก็สำหรับคนที่หน้าเรียบเนียนค่ะ แต่เราไม่เนียนไง ร้องไห้
มันฉ่ำเกินไปสำหรับเรา ยิ่งแต่เป็นคนหน้ามัน เอาจริงๆมันอาจจะดีสำหรับคนอื่นๆนะ แต่มันยังไม่ใช่สำหรับเราเศร้า
สำหรับใครที่ต้องการแบบกันเหงื่อกันน้ำเลยตัวนี้ไม่รอดค่ะ แต่ถ้าไม่โดนน้ำติดตลอดวันค่ะ 555555


Grid cc cushion กับ soul skin cc cushion
กระทู้คำถาม
แต่งหน้าเครื่องสำอางความงามSkin Care
Grid cc cushion กับ soul skin cc cushion
มีใครเคยใช่บ้าง เป็นยังไงกันบ้างค่ะ
แล้วผิวคล้ำยี่ห้อไหนดี


25 เมษายน เวลา 15:19 น. 
3 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1
เคยใช้ทั้งคู่ค่ะ soulskin ทาครั้งแรก อยู่แต่ในห้องแอร์ หน้าผ่อง ขาว สวย ทั้งวัน พออีกวันออกไปข้างนอก เหงื่อออก หน้าเป็นคราบ แป้งหลุด หน้ามัน จบเลยค่ะ
ส่วน grid ใช้ครั้งแรก ก้อรู้สึกติดทนทั้งวันจริง ๆ ไม่เป็นคราบ สีจะพอดีกับหน้าไม่วอกลอย ไม่รุ้สึกผ่อง แต่เรื่องปกปิด ไม่ว่าเราจะทาทับกี่ครั้ง มันก้อไม่ปกปิด แม้รอยกระใต้ตาจาง ๆ ของเราได้เลย หลังจากนั้นใช้วันที่ 2 3 4 ไม่รุ้สึกอะไรกับหน้าเลย ไม่ปกปิด ไม่ผ่อง เหมือนไม่ได้แต่งหน้า ตอนนี้กลับมาใช้รองพื้น revlon เหมือนเดิมแระ
ตอบกลับ
0 0  
Bubuaom   
25 เมษายน เวลา 17:17 น.
ความคิดเห็นที่ 1-1
ขอบคุณค่ะ
ตอบกลับ
0 0  
สมาชิกหมายเลข 2220540 
25 เมษายน เวลา 22:03 น.  [IP: 183.89.38.249]
ความคิดเห็นที่ 2
เคยใช้ Soul skin ค่ะ แม่เราก็ใช้ด้วย แม่เราเป็นฝ้าเต็มหน้าเลย พอใช้คนก็ทักๆกันเยอะนะคะว่าหน้าดูดีขึ้น แต่ถ้าจะให้ปกปิดต้องกดเยอะน่อย
-ปกปิดให้ปานกลาง-ดีค่ะ เบาบางไม่หนาเตอะ เนียนๆใสๆ
-คูชั่นพวกนนี้เน้นหน้าฉ่ำๆเพราะงั้นคุมมันไม่ค่อยได้ค่ะ
-ออกแดดมีเหงื่อถ้าไม่ปาดก็ไม่หลุดมาก
-มีเบอร์ให้เลือกค่ะ เลือกให้เหมาะกับสีผิวนะคะ
อยากลองGrid เหมือนกันคะ ชอบตรงที่เขาบอกว่าปรับสีเอง อมยิ้ม02
ตอบกลับ
0 0  
สมาชิกหมายเลข 2117636
25 เมษายน เวลา 19:55 น.  [IP: 58.10.204.29]
∨ดู 1 ความเห็นย่อย ∨
ความคิดเห็นที่ 3
เคยใช้ grid แต่เราไม่ชอบความรู้สึกที่ว่าทาแล้วยังรู้สึกเหนอะหนะ และใช้ได้ไม่กี่ครั้งก็แห้ง อาจเป็นที่เราใช้ด้วย คือ ใช้แค่วันหยุดเท่านั้น

แต่สำหรับคนที่ใช้ cushion อาจจะว่าดีก็ได้ ส่วนของเราขอลองแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เราว่าใช้พวกบีบีแล้วลงแป้งทับจะดีกว่านะ
ตอบกลับ
0 0  
novel 
25 เมษายน เวลา 20:58 น.
ความคิดเห็นที่ 3-1
ขอบคุณค่ะ
ตอบกลับ
0 0  
สมาชิกหมายเลข 2220540 
25 เมษายน เวลา 22:05 น.  [IP: 183.89.38.249]
แสดงความคิดเห็น

soul skin

Tuesday, June 14, 2016

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วง บ่งชี้วอลล์สตรีทอ่อนตัวคืนนี้ ก่อนประชุมเฟด

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วง บ่งชี้วอลล์สตรีทอ่อนตัวคืนนี้ ก่อนประชุมเฟด

14 มิ.ย. 2559 20:22 ชุดกระชับส่วน ยี่ห้อไหนดี

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลงในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดวอลล์สตรีทจะอ่อนตัวลงในคืนนี้ ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้และพรุ่งนี้
ณ เวลา 20.13 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าลบ 42 จุด หรือ 0.24% สู่ระดับ 17,597 จุด
นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ และจะจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมเพื่อหาทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
นอกจากนี้ นักลงทุนมีความวิตกกังวลมากขึ้นต่อกรณีที่อังกฤษอาจตัดสินใจแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในการลงประชามติวันที่ 23 มิ.ย.

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ และเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากยอดขายรถยนต์
ก่อนหน้านี้ ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค.
เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนพ.ค.
ยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 3.1% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว หลังจากดิ่งลง 3.2% ในเดือนมี.ค.

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และบริการอาหาร เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนเม.ย.

ดาวโจนส์ร่วงติดต่อกัน 4 วัน กังวล Brexit, บอนด์ยิลด์เยอรมันติดลบ

ดาวโจนส์ร่วงติดต่อกัน 4 วัน กังวล Brexit, บอนด์ยิลด์เยอรมันติดลบ

14 มิ.ย. 2559 20:56 ชุดกระชับส่วนผู้ชาย

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดแดนลบในวันนี้ โดยร่วงลงติดต่อกัน 4 วัน ก่อนการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้และพรุ่งนี้
 
ณ เวลา 20.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 17,704.78 จุด ลดลง 27.05 จุด หรือ 0.14%
ขณะเดียวกัน การที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีประเภทอายุ 10 ปีปรับตัวติดลบเป็นครั้งแรก ก็เป็นปัจจัยกดดันตลาดในวันนี้

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวนำตลาดวันนี้ ขณะที่กลุ่มสื่อสารปรับตัวลง
ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติร่วงลงติดต่อกัน 4 วันรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่เดือนก.พ.
นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ และจะจับตาแถลงการณ์หลังการประชุมเพื่อหาทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

นอกจากนี้ นักลงทุนมีความวิตกกังวลมากขึ้นต่อกรณีที่อังกฤษอาจตัดสินใจแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในการลงประชามติวันที่ 23 มิ.ย.
ผลการสำรวจพบว่า ผู้ที่สนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป กำลังมีจำนวนมากกว่าผู้ที่สนับสนุนให้อังกฤษยังคงอยู่ในยุโรป

ชุดกระชับส่วน ผู้ชาย

Thursday, June 9, 2016

"สมคิด"ปลื้มเวิลด์แบงก์ปรับเพิ่ม GDP ไทยปีนี้ แม้ศก.โลกทรุด ยันไทยไม่ประมาท

"สมคิด"ปลื้มเวิลด์แบงก์ปรับเพิ่ม GDP ไทยปีนี้ แม้ศก.โลกทรุด ยันไทยไม่ประมาท


9 มิ.ย. 2559 14:31

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารโลก (World Bank) รายงานภาวะเศรษฐกิจโลกรอบครึ่งปี และปรับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยเพิ่มขึ้นเป็น 2.5% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 2% ว่า เป็นเรื่องน่าดีใจที่ธนาคารโลกได้ปรับจีดีพีของไทยในปีนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งนับเป็นเพียงประเทศเดียวในแถบเอเชียตะวันออก และแปซิฟิก ที่ได้รับการปรับจีดีพีเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมในเดือน ม.ค.
 
แต่อย่างไรก็ดี เราคงจะไม่ประมาท เพราะขณะเดียวกันธนาคารโลกได้ปรับลดจีดีพีของโลกในปีนี้ลงเหลือ 2.4% จากเดิม 2.9% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกยังทรงกับทรุด และในระยะสั้นคงยังไม่ฟื้นตัวเร็ว
ทั้งนี้ ยอมรับว่าอัตราการเติบโตเศรษฐกิจของไทย ในอาเซียนอยู่ในอัตราการเติบโตที่ต่ำมานานหลายปี และครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เริ่มปรับตัวขึ้นมาสวนกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก ซึ่งเราต้องประคองไม่ให้เศรษฐกิจทรุดตัวลง โดยหัวใจสำคัญอยู่ที่การวางรากฐานในอนาคต และต้องเน้นในเรื่องของการผลักดันการปฏิรูป
"ต้องยอมรับว่าเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาตกต่ำมาก และในปีนี้ก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ธนาคารโลกจะปรับการเติบโตเศรษฐกิจประเทศใดขึ้นง่ายๆ แต่ก็อย่าพอใจแค่นี้ ซึ่งเชื่อว่าหากบ้านเมืองสงบเศรษฐกิจจะเจริญเติบโต และต่างประเทศจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น รวมถึงประเทศในกลุ่มอาเซียนมีเศรษฐกิจที่ดี ก็จะยิ่งทำให้ไทยได้รับผลประโยชน์ เพราะว่าไปถือเป็นศูนย์กลางของอาเซียน" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว เสื้อผ้าแฟชั่น

อย่างไรก็ตาม การที่มีสัญญาณทางด้านเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แต่ประชาชนในระดับล่างยังมีรายได้ที่น้อยอยู่ จึงจำเป็นต้องช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น เพราะจะส่งผลดีทำให้เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น และจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มการลงทุนให้มากขึ้น
รองนายกรัฐมนตรี ยังเชื่อว่า ในช่วงนี้สหรัฐฯ คงยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นตัวมาตั้งแต่ปี 2008 เพราะสหรัฐฯ ใช้วิธีการอัดฉีดเม็ดเงินเพียงอย่างเดียว และนักธุรกิจเองก็ยังไม่มั่นใจในเศรษฐกิจของประเทศ เช่นเดียวกันในประเทศแถบยุโรปก็ยังไม่มีสัญญาณว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว ขณะที่กลุ่มที่พอมีความหวังในการเติบโตทางเศรษฐกิจ คือ กลุ่มประเทศเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน ที่ต่างหวังว่าอย่าให้เศรษฐกิจในประเทศจีนทรุดตัว
อย่างไรก็ดี ไทยจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาตัวเอง ซึ่งรัฐบาลมีแนวคิดที่จะให้การช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ต้องการเม็ดเงินไปพัฒนาธุรกิจ โดยจะใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการขับเคลื่อน โดยจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

นอกจากนี้ ในส่วนของฤดูกาลผลิตใหม่ของเกษตรกร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้สูงขึ้น เพราะนายกรัฐมนตรี เห็นความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเร่งการพัฒนาเศรษฐกิจ

Wednesday, June 8, 2016

รฟท.มั่นใจเปิดประมูลรถไฟทางคู่อีก 5 เส้นทางทันภายในปี 59 ส่วน 2 เส้นแรกคาดแล้วเสร็จปี 61-62

รฟท.มั่นใจเปิดประมูลรถไฟทางคู่อีก 5 เส้นทางทันภายในปี 59 ส่วน 2 เส้นแรกคาดแล้วเสร็จปี 61-62


8 มิ.ย. 2559 15:39 ชุดกระชับสัดส่วน


การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ตามนโยบายรัฐบาล และยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย และมั่นใจว่ารถไฟทางรู่อีก 5 เส้นทางที่เหลือจะเปิดประมูลได้ทันภายในปี 59 โดยล่าสุด 2 เส้นทาง ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ลงมือก่อสร้างก้าวหน้าไปแล้ว 0.75-1.42% คาดว่าจะทยอยแล้วเสร็จในปี 61-62
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ รฟท.เปิดเผยว่า โครงการรถไฟทางคู่ที่เหลือตามแผนงานอีก 5 เส้นทาง ได้แก่ รถไฟทางคู่ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร รถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กม. รถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม. รถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม. และรถไฟทางคู่หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กม. คาดจะทยอยเปิดประกวดราคาได้ภายในปี 59 ทั้งหมด เป็นไปตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 8 ปีที่กำหนดไว้

รฟท.ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบรางได้มีการดำเนินงานสนองต่อนโยบายของรัฐบาล โดยที่ผ่านมาได้มีการลงนามสัญญาจ้างผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สำเร็จแล้ว 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย และช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น

ทั้งนี้ ปัจจุบันทั้ง 2 เส้นทาง ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้วตามแผนตั้งแต่เดือน ก.พ. 59 ที่ผ่านมา และมีความก้าวหน้าไปตามลำดับ ดังนี้เส้นทางแรก รถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอยสัญญาที่ 1 งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบุใหญ่-แก่งคอย ระยะทาง 97 กม. และทางคู่เลี่ยงเมือง (Chord Lines)3 แห่ง ระยะทาง 7.1 กม.ขณะนี้มีความก้าวหน้าไปแล้ว 0.75%และคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จได้เดือนก.พ. 61

ส่วนงานสัญญา 2 งานก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงวิหารแดง-บุใหญ่ ระยะทาง 9 กม. พร้อมอุโมงค์รถไฟลอดใต้เขาพระพุทธฉาย ระยะทาง 1.2 กม.มีความก้าวหน้าไป 0.80%และก่อสร้างเสร็จเดือน เม.ย. 61

ขณะที่โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กม.มีความก้าวหน้าในการก่อสร้างไปแล้ว 1.42%และก่อสร้างเสร็จเดือน ก.พ. 62 ชุดกระชับสัดส่วน

“จากการที่นายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยให้เกิดการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ทางรางได้ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการสร้างรถไฟทางคู่จะช่วยแก้ปัญหาความคับคั่งของการเดินรถและลดระยะเวลาสับหลีกขบวนอันเป็นอุปสรรคให้การขนส่งทางรถไฟล่าช้า รวมถึงยังช่วยลดต้นทุนการขนส่งต่อหน่วยให้ถูกลงจากปัจจุบันไทยมีต้นทุนโลจิสติกส์ต่อจีดีพีสัดส่วนร้อยละ 14.2 ตลอดจนช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศได้ในระยะยาว"ผู้ว่า รฟท. กล่าว

ชุดกระชับส่วน